Skip to content

ไม่ได้จะมาชวนคุยเรื่องหัวใจ แต่อยากชวนมาเคลียร์ใจกันดีๆ ว่าทำไมวันนี้เวลานี้ เรื่อง ‘ภูมิคุ้มกัน’ ถึงเป็นเรื่องที่ทุกๆ คนต้องเปิดใจคุยกัน พูดได้เต็มปากเลยว่าเรื่องนี้มันสำคัญยิ่งกว่ามีแฟนอีก!

ใครที่ยังไม่เชื่อ หรือกำลังคันปากอยากถามอยู่เหมือนกัน ลองคลิกอ่าน Question ต่อไปนี้ที่เราจัดมาให้ พร้อมคำตอบที่จะมาช่วย Clear ชัดๆ กันไปทีละข้อ ทีละประเด็น ตามสไตล์คนขี้สงสัยเรื่องสุขภาพ ถามมาตอบไป ให้มันรู้กันไปเลยว่าเรื่องหัวใจน่ะเรื่องเล็ก แต่เรื่องภูมิคุ้มกัน ไม่เล็กนะครับ…

อ้อ ถ้าคุณกดไลก์ความรู้นี้ อย่าลืมแชร์ไปให้คนที่คุณเป็นห่วงด้วยล่ะ

Q: ทำไมมีภูมิคุ้มกันถึงสำคัญกว่ามีแฟน?

Question: ถึงจะไม่มีใครเคยเอาคำถามนี้ไปถามพี่อ้อยพี่ฉอด เพราะเกรงว่าพี่เขาจะไม่ตอบให้ แต่เราเชื่อว่ามีหลายคนที่แคร์เรื่องสุขภาพก็แอบสงสัยเหมือนกัน ว่าแล้วทำไมยุคนี้คุณหมอ คนดัง ผลิตภัณฑ์ หรืองานวิจัยส่วนใหญ่ก็พูดถึงแต่เรื่องภูมิคุ้มกัน ราวกับว่ามันสำคัญยิ่งกว่ามีแฟน?

C: ไม่มีแฟนก็ไม่ตายแต่ไม่มีภูมินี่เสี่ยงตายได้เลยนะ

Clear: เพราะเรากำลังอยู่ในยุคที่โรคภัยรุมเร้า โดยเฉพาะเจ้าโควิด-19 ที่คร่าชีวิตคน และยังวนเวียนรอจ้องกระโดดใส่เรา (จนอาจจะเข้าสู่การระบาดระลอกสอง) ต่อให้เราพยายามจะป้องกันตัวเองอย่างถี่ถ้วน ปรับพฤติกรรมใหม่ ทำตามเช็คลิสต์ที่กระทรวงสาธารณสุขหรือองค์การอนามัยโลกแนะนำ ทั้งล้างมือ 20 วินาที ใส่หน้ากากอนามัยไปทุกที่ จามใส่ข้อพับแขน พยายามไม่แตะจมูกและใบหน้า กักตัวเองนาน 14 วันเมื่อป่วย แต่ทั้งหมดนั่นก็เป็นแค่การป้องกันตัวเองจากภายนอกอยู่ดี

แพทย์ได้ออกมายืนยันแล้วว่า เส้นตายสุดท้าย ซึ่งเปรียบเหมือนเกมด่านบอสที่จะมากำหนดว่าเราจะติดโรคนี้รึเปล่าก็คือ ‘ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย’ และยังเป็นตัวตัดสินด้วยว่าไวรัสจะเล่นงานเราหนักแค่ไหน ซึ่งแต่ละคนมีภูมิคุ้มกันไม่เท่ากัน นี่คือเหตุผลว่าทำไมบางคนติดแล้ว แต่ไม่แสดงอาการ หรือเป็นแล้วก็หายได้หน้าตาเฉย แต่บางคนกลับเป็นหนักถึงขั้นเสี่ยงถึงตาย ว่ากันว่า ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเป็นกลไกที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยปริศนามากที่สุดรองลงมาจากสมอง 

Q: โลกของเราเหงาไม่เท่ากันภูมิคุ้มกันของเราก็ไม่เท่ากันเหรอ?

Question: คนเราเกิดมามีบุญวาสนาเรื่องความรักไม่เท่ากัน แค่นี้โลกก็ไม่ยุติธรรมจนน่าน้อยเนื้อต่ำใจอยู่แล้ว แต่นี่แม้กระทั่งเรื่องภูมิคุ้มกัน เกิดมาคนเราก็มีไม่เท่ากันด้วยเหรอ?

C: จริงอยู่ที่บางคนไม่มีวาสนาเรื่องภูมิคุ้มกันแต่ของแบบนี้มันสร้างกันได้

Clear: ระบบภูมิคุ้มกัน มีทั้งส่วนที่เป็นเหมือนบุญวาสนาติดตัวมาแต่เกิด กับอีกส่วนที่เกิดขึ้นมาภายหลัง จากประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคน เช่น การติดเชื้อ การฉีดวัคซีน การที่คนมีภูมิต้านทานไม่เท่ากันจึงไปโทษพันธุกรรมที่ฟ้าให้มาอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะ เพราะภูมิคุ้มกันเราอาจจะมีมากขึ้น น้อยลง ปรับเปลี่ยนไปได้จากรูปแบบการใช้ชีวิต การมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม และการประสบโรคภัยในช่วงชีวิตที่แตกต่างกันด้วย

ใครเกิดมามีภูมิคุ้มกันดีตั้งแต่เด็กๆ ก็อย่าเพิ่งคิดอิจฉาเหมือนว่าเขาถูกหวยรางวัลที่ 1 เพราะนั่นไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตอยู่ดี ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายพร้อมจะปรับเปลี่ยนตัวเองอยู่ตลอดเวลา ใครที่ไม่เคยเป็นโรคอะไรเลยก็อาจจะนำไปสู่ภาวะภูมิต้านทานต่ำในอนาคตได้ หรือคนที่ผ่านการเป็นโรคมาแล้วโชกโชนจนร่างกายสร้างภูมิเยอะแยะ ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพอื่นๆ (ใช่ เป็นโควิดแล้ว ก็กลับมาเป็นได้อีก!) เรื่องนี้บุญวาสนาไม่ช่วยอะไรเลย

Q: ยิ่งอายุมากยิ่งเรตติ้งตกภูมิคุ้มกันก็ตกตามใช่ไหม?

Question: คลาสสิกมากๆ ถ้าจะขอตั้งคำถามว่ายิ่งอายุเยอะ ทุกอย่างก็เสื่อมถอยลง ไม่ว่าจะเรื่องความรักหรือสุขภาพ เมื่อเราก้าวสู่วัยที่เรตติ้งเริ่มตก ภูมิคุ้มกันก็ตกตามไปด้วยใช่ไหม? 

C: ไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป #ความรักก็เช่นกัน

Clear: แน่นอนว่าหากคุณยังหนุ่มแน่น สาวเซี้ยะ มั่นใจว่ารักษาสุขภาพดี ไม่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงให้ร่างกายทรุดโทรม ภูมิคุ้มกันในร่างกายก็น่าจะยังทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพพอจะกำจัดเชื้อโรคที่มารุกราน แต่ข่าวร้ายคือภูมิคุ้มกันอยู่กับใครได้ไม่นาน เพราะมันมีการเสื่อมถอยลงได้ตามอายุ และที่ซับซ้อนกว่านั้นคือเกมมันพลิกได้ ถ้าคุณเป็นคนหนุ่มสาวที่คิดว่าภาวะภูมิคุ้มกันตกเป็นเรื่องไกลตัวแล้วละก็ ขอให้คิดใหม่…

เพราะความจริง คุณอาจจะเผลอบ่อนทำลายภูมิคุ้มกันตัวเองได้ตั้งแต่วัยรุ่น จากวิถีชีวิตที่หักโหม โชกโชน นอนน้อย ไม่ออกกำลังกาย สูบบุหรี่จัด หรือปล่อยให้ตัวเองอ้วน ภูมิคุ้มกันก็จะเสื่อมถอยก่อนเวลาอันควรได้เหมือนกัน ว่ากันว่า อายุของระบบภูมิคุ้มกันในตัวคุณอาจจะห่างจากอายุจริงได้ถึง 20 ปี เช่น ถ้าคุณเป็นคนวัย 30 ที่ดูแลตัวเองไม่ดี อายุของระบบภูมิคุ้มกันของคุณก็อาจจะเท่าคนอายุ 50 ได้เลย โถ…

Q: ปัดทินเดอร์ยังเจอแฟนได้แต่ทำยังไงถึงจะมีภูมิคุ้มกัน?

Question: โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ขนาดความรักยังใช้เทคโนโลยีช่วยได้ ปัดซ้ายปัดขวาในแอพฯ หาคู่แค่ไม่กี่ทีเราก็มีโอกาสเจอแฟน แต่กับภูมิคุ้มกันมันดูไม่ง่ายขนาดนั้น แล้วเราจะไปไขว่คว้าหามันได้จากที่ไหน? 

C: เรื่องภูมิคุ้มกันไม่ต้องปัดไปที่ใครดูแลตัวเองให้ดีก็พอ

Clear: ไม่ต้องปัดซ้าย ปัดขวา หรือความรับผิดชอบไปที่ใคร มีงานวิจัยบอกว่าหัวใจของการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย คือการพยายามลดวัย หรือ anti-aging สุขภาพของเราในองค์รวม พูดง่ายๆ ก็คือกินอาหารให้น้อยลง เลือกอาหารที่มีคุณค่า และออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ เตรียมร่างกายให้พร้อมแบบไม่ต้องรอให้ถึงวัยเรตติ้งตก คือคำตอบสุดท้ายของเรื่องนี้ 

แต่ถ้าคุณยังทำไม่ได้ขนาดนั้น ชีวิตยังมีข้อจำกัดให้ต้องหักโหมในบางเวลา ก็ต้องหาตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกันกันไป ซึ่งอาจจะมาจากอาหารที่เราเลือกกิน อาหารเสริม วิตามินต่างๆ และที่สำคัญคืออย่าลืมหาความรู้ใหม่ๆ ให้ตัวเองมีภูมิอยู่เสมอ เรื่องภูมิคุ้มกันกลายเป็นความหวั่นวิตกใหม่ที่เราต้องรีบทำความเข้าใจ จะได้ไม่วิตกหนัก

หาแฟนเรื่องเล็ก หาภูมิคุ้มกันให้ตัวเองเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ต้องรอให้หมอมาบอกหรอก ในยุคที่โรคระบาดหลายชนิดเตรียมจ่อเล่นงานเราแบบนี้