อากาศเปลี่ยนนิดเดียวก็คัดจมูก เจอฝุ่นเข้าหน่อยก็ผื่นขึ้น กินอาหารที่ไม่คุ้นก็ไม่สบาย หลายคนคงสงสัยว่าเรากำลังเป็นโรคภูมิแพ้อยู่หรือเปล่า
เรามักได้ยินกันว่าโรคภูมิแพ้เกิดจากกรรมพันธุ์ เป็นโรคประจำตัวที่มักจะพบกันตั้งแต่เด็ก แต่ในความจริงแล้วใครๆ ก็สามารถเป็นโรคภูมิแพ้ได้ เพราะสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้คนส่วนใหญ่เป็นภูมิแพ้ยังมาจากสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป อากาศแปรปรวน ฝุ่นควัน รวมถึงภูมิคุ้มกันที่ลดลง ซึ่งความรุนแรงมีตั้งแต่อาการแพ้เล็กน้อย มีผื่นคัน ไปจนถึงขั้นส่งผลต่อชีวิตได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องทำความรู้จักกับสัญญาณของอาหารแพ้และรู้จักวิธีดูแลตัวเอง
ภูมิแพ้เป็นโรคที่เกิดจากการตอบสนองของร่างกายที่ไวต่อสารก่อภูมิแพ้มากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการผิดปกติกับอวัยวะที่สัมผัสสารก่อภูมิแพ้นั้นๆ ทำให้โรคภูมิแพ้ของแต่ละคนจะมีอาการแตกต่างกันตามอวัยวะเหล่านี้
คันตา แสบตา ตาแดง น้ำตาไหล และมีขี้ตา สัญญาณเสี่ยงจะเป็นโรคภูมิแพ้ทางตา (Allergic conjunctivitis)
การอักเสบบริเวณดวงตาที่เกิดจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ของเยื่อบุตาต่อสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ เช่น ไรฝุ่น อาหาร เกสรดอกไม้ หรือแพ้คอนแทคเลนส์ ซึ่งอาการจะคล้ายกับโรคตาแดง แต่โรคภูมิแพ้ตาไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคอย่างไวรัสหรือแบคทีเรีย แต่เกิดจากสารก่อภูมิแพ้ที่จะทำปฏิกิริยาต่อผู้ที่แพ้เท่านั้น
คันจมูก คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม ไอเรื้อรัง หรือกระแอมตลอดเวลา สัญญาณเสี่ยงจะเป็นโรคแพ้อากาศหรือภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ (Allergic rhinitis)
คืออาการแพ้ที่พบได้บ่อยที่สุด สาเหตุหลักๆ คือแพ้สารในอากาศ เช่น ฝุ่น ควัน เกสรดอกไม้ มีอาการคล้ายกับหวัดแต่ต่างกันตรงที่โรคหวัดจะหายไปประมาณ 3-10 วัน แต่โรคภูมิแพ้อากาศจะมีอาการคันจมูกร่วมด้วย รวมไปถึงอาการคันตา น้ำตาไหล และมักมีระยะเวลาของโรคยาวนานมากกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป
คันผิว มีผื่นแดง มีรอยนูนแดง หรือตุ่มบวมอักเสบ สัญญาณจะเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Allergic skin disease)
เป็นภูมิแพ้ที่จะเป็นๆ หายๆ อาจมีสิ่งกระตุ้นทำให้เกิด เช่น เหงื่อ การอาบน้ำอุ่นทำให้ผิวแห้งอากาศแห้งในฤดูหนาว การเกาจนติดเชื้อที่ผิวหนัง และมักจะเกิดขึ้นร่วมกับโรคแพ้อากาศด้วย
คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ท้องอืด ปากบวม สัญญาณเสี่ยงจะเป็นโรคแพ้อาหาร (Food allergy)
หลายคนมักจากสับสนกับโรคอาหารเป็นพิษแต่อาการแพ้อาหารจะไม่เกิดขึ้นกับคนทั่วไปและมักจะมีอาการภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ จาม น้ำตาไหล คัดจมูก ร่วมด้วย
โรคภูมิแพ้ชนิดรุนแรงที่มีอาการหลายระบบ (Anaphylaxis)
ที่จะมีอาการภูมิแพ้แบบคอมโบทั้งอาการคันจมูก น้ำมูกไหล มีผื่นแดง อาเจียนในเวลาเดียวกันเกิดขึ้นแบบฉับพลัน มักเกิดภายใน 5-30 นาทีหลังจากได้รับสารก่อภูมิแพ้ หรือไม่เกิน 2 ชั่วโมงหลังได้รับสารก่อภูมิแพ้ชนิดรับประทาน
แม้ภูมิแพ้จะเป็นโรคประจำตัวเรื้อรังที่รักษาไม่หาย แต่ก็สามารถบรรเทาอาการให้บางเบาลงได้ด้วยการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายแบบแอโรบิค เช่น การวิ่ง เดิน ว่ายน้ำ เป็นประจำ แต่ไม่ควรออกกำลังกายในช่วงที่อาการของภูมิแพ้กำเริบ และกินอาหารที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ระบบภูมิคุ้มกัน ด้วยความปรารถนาดีจาก QminC เครื่องดื่มขมิ้นชันสกัดที่มีสารสกัดเคอร์คิวมินที่ช่วยดูแลระบบภูมิคุ้มกันให้คุณ
#QminC #คิวสำคัญทุกวันของคุณ
ที่มาข้อมูล