สิ่งที่ดูจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของมนุษย์ออฟฟิศยุคนี้ คงหนีไม่พ้นร่างกายที่เปิดโหมดปวดเมื่อยน่ารำคาญใจ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการนั่งทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย ยิ่งกับบริษัทที่ให้พนักงานเวิร์กฟอร์มโฮมกันด้วยแล้ว บางคนปวดหลังหนักกว่าเดิมเพราะห้องพักที่อยู่ ไม่มีมุมไหนที่แพลนไว้เผื่อการนั่งทำงานยาวๆ เลย
ถ้าไม่อยากให้หลังพังไปมากกว่านี้ เรามาอัพเวลโต๊ะที่เรามีอยู่แล้วที่บ้าน เป็นโต๊ะทำงานที่ไม่เสี่ยงออฟฟิศซินโดรมแบบง่ายๆ กันดีกว่า
STEP 1
เริ่มตั้งแต่ของชิ้นใหญ่ที่สุดอย่างโต๊ะ ถ้ายังไม่พร้อมจ่ายเงินซื้อโต๊ะทำงาน หรือพื้นที่ในห้องมีไม่พอสำหรับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่ ลองปรับมาใช้โต๊ะกินข้าวแทนได้ เพราะความสูงมาตรฐานของโต๊ะกินข้าวจะอยู่ที่ 70-80 เซนติเมตร ซึ่งใกล้เคียงกับความสูงของโต๊ะทำงานทั่วไปนั่นเอง
STEP 2
สิ่งที่แนบชิดกับสรีระเราตลอดเวลาอย่างเก้าอี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน ถ้าช่วงนี้กระเป๋าเงินยังตุงๆ อยู่ เราอยากแนะนำให้ซื้อเก้าอี้ทำงานที่คำนึงถึงสุขภาพคนนั่งดีๆ สักตัว หากมีแววว่าต้องใช้ในระยะยาวยังไงก็คุ้มค่าแน่นอน แต่ถ้าสู้ราคาแรงๆ ไม่ไหว ลองหาเก้าอี้ราคาเบาๆ สักตัวมาก็ไม่ใช่ทางเลือกที่แย่เลย แต่ต้องทดสอบว่าเหมาะจะใช้นั่งทำงานยาวๆ มั้ย เช่น นั่งเต็มเบาะแล้วสบายหรือเปล่า เข่าตั้งฉากกับพื้นได้มั้ย ถ้าเบาะเตี้ยไปหรือพนักพิงห่างไป ใช้หมอนในห้องนอนช่วยเสริมได้นะ
STEP 3
เรื่องอุปกรณ์หลักในการทำงาน หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปต้องสูงในระดับสายตา ถ้าจอต่ำไป ลองหยิบนิตยสารหรือหนังสือจากกองดองมาวางเป็นฐานใต้จอ เสริมความสูงจนได้ระดับที่พอดีแล้ว อย่าลืมตั้งจอให้เอียง 20 องศา และห่างจากตัวประมาณ 50-75 เซนติเมตร ป้องกันสายตาไม่ให้ใกล้จอมากจนเกินไป
STEP 4
ตำแหน่งเม้าส์กับคีย์บอร์ดต้องอยู่ระดับเดียวกับข้อศอกและมือ ไหล่ต้องไม่ยกและข้อมือต้องไม่เกร็ง ขณะเดียวกันตอนนั่งหลังก็ต้องตรงด้วย ถ้ามีปัญหาส่วนนี้ อาจจะต้องปรับระดับเก้าอี้กันอีกรอบ เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ มากกว่าอาการปวดเมื่อยที่มาเยือนเพียงชั่วคราว อาจลุกลามไปยังปัญหาไหล่ห่อคอยื่น เสียบุคลิกภาพที่เคยเฉิดฉายเป็นของแถม
ได้ที่นั่งทำงานที่ถูกใจแล้ว อย่าลืมท่องไว้ในใจด้วยว่า ต่อให้เรารักงานขนาดไหน ต้องลุกขึ้นมายืดตัว เดินไปเดินมาให้ร่างกายได้ยืดคลายบ้าง ถ้ายังไม่มีไอเดียว่าจะเดินไปไหน ลองเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบเครื่องดื่มขมิ้นชันสกัด QminC มาดื่มเพิ่มความสดชื่นระหว่างวัน ก็เป็นตัวเลือกของการดูแลตัวเองที่ไม่เลวเลยทีเดียวนะ